8 เทคนิคเทพ! เปลี่ยน 'จดหมายสมัครงาน' ให้เตะตาฝ่ายบุคคล HR

8 เทคนิคเทพ! เปลี่ยน 'จดหมายสมัครงาน' ให้เตะตาฝ่ายบุคคล HR


เชื่อหรือไม่ว่าฝ่าย HR ใช้เวลาโดยเฉลี่ยเพียง 6 วินาที ในการมองหาความน่าสนใจจากจดหมายสมัครงานที่กองอยู่เต็มโต๊ะทำงาน รวมทั้งในระบบออนไลน์และอีเมล์ และนี่คือ 8 องค์ประกอบสำคัญที่จะทำให้จดหมายสมัครงานของคุณมีความน่าสนใจ และเป็นที่สะดุดตา

1. ใส่เบอร์โทรศัพท์และอีเมล์เพียงอันเดียวที่สามารถติดต่อได้ตลอดเวลา ไว้ด้านบนของจดหมายสมัครงาน เพื่อที่นายจ้างจะเห็นได้อย่างชัดเจน เมื่อต้องการติดต่อนัดสัมภาษณ์งาน และเพื่อให้คุณไม่พลาดการติดต่อหากนายจ้างโทรไปอีกเบอร์ที่คุณไม่ได้ใช้ หรืออีเมล์ที่คุณไม่ได้เช็กอยู่ตลอด

2. ไม่จำเป็นต้องใส่จุดมุ่งหมายในอาชีพ (Career Objective) หากมันไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อบริษัท การเขียน Career Objective ประมาณว่า “ต้องการประสบการณ์ในสายงาน หรือโอกาสในการพัฒนาทักษะความสามารถ” ไม่ได้ทำให้คุณดูน่าสนใจมากขึ้น ควรตัดมันทิ้ง เพื่อที่คุณจะมีพื้นที่สำหรับโชว์จุดเด่นอย่างอื่นดีกว่า

3. ใส่สรุปประวัติส่วนตัว (Executive Summary) แทน Career Objective
การ เขียน Executive Summary เป็นการสรุปโดยย่อเกี่ยวกับตัวคุณ อาทิ จุดเด่น คุณสมบัติ และคุณค่าที่คุณมีต่อบริษัท ประมาณ 3-5 ข้อ เพื่อให้นายจ้างรู้จักคุณมากขึ้น

4. ใช้คีย์เวิร์ดเดียวกับที่ระบุในประกาศงาน
คีย์ เวิร์ดที่ระบุในประกาศงาน คือคุณสมบัติที่นายจ้างต้องการ คุณจึงควรใช้คีย์เวิร์ดในจดหมายสมัครงานของคุณให้ตรงกับคีย์เวิร์ดในประกาศ งานด้วย เมื่อฝ่าย HR กวาดตาดูจดหมายสมัครงานของคุณ ก็จะสะดุดกับคีย์เวิร์ดที่ตรงกับความต้องการของเขาในทันที

5. ให้ข้อมูลบริษัทที่คุณเคยทำงาน
การ ที่นายจ้างได้รู้ว่าคุณเคยทำงานในอุตสาหกรรมใด บริษัทขนาดใหญ่หรือเล็กมาก่อน จะช่วยทำให้การตัดสินใจง่ายขึ้น หากคุณต่อยอดในอุตสาหกรรมเดียวกัน อย่าลืมที่จะบอกให้นายจ้างรู้ แต่หากคุณต้องการเปลี่ยนงานไปยังอุตสาหกรรมอื่น อาจเลือกที่จะโฟกัสที่ขนาดของบริษัทแทน

6. ระบุความสำเร็จเป็นข้อๆ
ด้าน ล่างของประสบการณ์การทำงานในแต่ละที่ ควรบรรยายถึงความสำเร็จที่คุณได้ทำให้กับทีมหรือบริษัทที่ผ่านมา โดยเริ่มจากผลที่ได้ แล้วจึงตามด้วยวิธีการได้มาซึ่งผลนั้น เช่น เพิ่มยอดขาย 40% ต่อเดือนโดยการ..." ความยาวประมาณ 2-5 ข้อ

7. ประวัติการศึกษาเอาไว้ท้ายสุด
หาก คุณไม่ใช่นักศึกษาจบใหม่ ควรเน้นที่ประสบการณ์การทำงานเป็นหลัก ส่วนประวัติการศึกษาควรย้ายไปไว้ตอนท้ายของจดหมายสมัครงาน และไม่จำเป็นต้องใส่ประวัติการศึกษาระดับมัธยมลงไป

8. ไม่ระบุข้อมูลบุคคลอ้างอิง (References upon request)
ฝ่าย HR รู้ดีอยู่แล้วว่า ผู้สมัครจะให้ข้อมูลบุคคลอ้างอิงก็ต่อเมื่อ HR ร้องขอ จึงไม่มีเหตุผลที่จะต้องใส่ประโยคนี้ลงไปในจดหมายสมัครงานของคุณ อย่าลืมว่า พื้นที่ในจดหมายสมัครงานของคุณมีค่ามากกว่าจะเสียไปกับสิ่งที่ไม่เป็น ประโยชน์ใดๆ

ลองปรับ หรือนำไปประยุกต์ใช้ให้เข้ากับสไตล์การสมัครงานของคุณ ก็ไม่น่าจะเสียหายอะไร...!

ข้อมูลจาก ไทยรัฐออนไลน์



คัดลอก URL บทความนี้แบบย่อ