รหัสประวัติ JB2015073922
แก้ไขล่าสุด 07 ก.ย. 58
เพศ |
หญิง |
วันเกิด |
03 ก.พ. 36
อายุ 32 ปี |
สัญชาติ |
ไทย |
ศาสนา |
พุทธ |
ส่วนสูง |
158 ซม. |
น้ำหนัก |
65 กก. |
สถานะ |
โสด |
สถานะภาพทางทหาร |
ได้รับการยกเว้น |
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมแกล้าพระนครเหนือ ปี 2558
ระดับการศึกษา |
ปริญญาตรี |
คณะ |
คณะอุตสาหกรรมเกษตร |
สาขาวิชา |
สาขาเทคโนโลยีอุตสาหกรรมเกษตรและการจัดการ |
วุฒิการศึกษา |
วิทยาศาสตรบัณฑิต |
เกรดเฉลี่ย |
3.41 |
โรงเรียนมหาวชิราวุธ จังหวดสงขลา ปี 2553
ระดับการศึกษา |
ม.ปลาย |
คณะ |
ไม่ระบุ |
สาขาวิชา |
ไม่ระบุ |
วุฒิการศึกษา |
การศึกษาขั้นพื้นฐานช่วงชั้นปีที่ 4 |
เกรดเฉลี่ย |
2.83 |
1. ตั้งแต่ มิถุนายน 2557 จนถึง กันยายน 2557
บริษัท/กิจการ |
เฉพาะสมาชิกเท่านั้น |
ตำแหน่ง/หน้าที่ |
นักศึกษาสหกิจศึกษา ฝึกงานแผนกการผลิต |
2. ตั้งแต่ มีนาคม 2557 จนถึง พฤษภาคม 2557
บริษัท/กิจการ |
เฉพาะสมาชิกเท่านั้น |
ตำแหน่ง/หน้าที่ |
ผู้ช่วยนักวิจัย |
ความสามารถทางภาษา/Language Skills
ภาษา/ Language |
พูด/ Speak |
อ่าน/ Read |
เขียน/ Write |
ไทย/Thai |
ดี |
ดี |
ดี |
อังกฤษ/English |
ดี |
พอใช้ |
พอใช้ |
พิมพ์ดีด
ไทย 35 คำ/นาที
อังกฤษ 28 คำ/นาที
ความสามารถในการขับขี่
รถยนต์
ยานพาหนะส่วนตัว
ไม่ระบุ
ความสามารถพิเศษอื่นๆ
สามารถด้านการใช้ภาษาไทยในการพูด, การอ่าน และการเขียนได้
สามารถด้านการใช้ภาษาอังกฤษในการพูด, การอ่านและการเขียนได้
สามารถใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ต่างๆ ได้ เช่น Microsoft Office, SPSS และMinitab 16
มีความรับผิดชอบ ขยัน และมีมนุษยสัมพันธ์ดี
สามารถขับรถยนต์ส่วนบุคคุลได้ เลขที่ใบขับขี่ 57003236
โครงการ ผลงาน เกียรติประวัติและประสบการณ์อื่นๆ
การปรับปรุงกระบวนการทำงานและการลดปริมาณน้ำใช้ในกระบวนการผลิตโดยใช้วิธีการทาง Lean Six Sigma กรณีศึกษา: ธุรกิจแปรรูปไข่บ้านนา เป็นการศึกษาพฤติกรรมกระบวนการผลิตและการล้างทำความสะอาดของโรงงานซีพีเอฟ แปรรูปไข่ (บ้านนา) โดยนำหลักการ Lean Six Sigma มาใช้ในการปรับปรุงการทำงาน ซึ่งจัดทำผังแสดงเหตุผล (Fishbone diagram) และการวิเคราะห์ลักษณะข้อบกพร่องและผลกระทบ (FMEA) เพื่อนำไปสู่การสังเกตและวิเคราะห์การใช้น้ำในกระบวนการทำความสะอาดแบบถอดชิ้นส่วน (COP) และวิเคราะห์เวลาที่ใช้น้ำในกระบวนการล้างทำความสะอาดช่วงการไล่น้ำไข่เหลวภายในเส้นท่อ (CIP) หลังจากกระบวนการผลิตในแต่ละสินค้า มีการระดมสมองเพื่อวิเคราะห์และหาแนวทางการแก้ปัญหา พิจารณาเกณฑ์การประเมินความรุนแรงข้อบกพร่อง โอกาสสาเหตุการเกิดความเสียหาย และความสามารถในการตรวจพบเพื่อควบคุมปัจจัยข้อบกพร่อง และนำไปคำนวณค่าดัชนีความเสี่ยงชี้นำ (Risk Priority Number: RPN) งานวิจัยนี้จึงเลือกแก้ไขลักษณะข้อบกพร่องที่มีค่า RPN มากกว่า 700 คะแนนขึ้นไป พบสาเหตุข้อบกพร่องที่ทำให้ใช้น้ำในปริมาณสูง 14 ข้อ จึงได้ดำเนินการแก้ไข ปรับปรุงกระบวนการทำงานให้ได้มาตรฐาน และติดตั้งอุปกรณ์การจ่ายน้ำที่สามารถควบคุมการเปิดปิดได้ ผลคือสามารถลดปริมาณการใช้น้ำในกระบวนการทำงานได้เฉลี่ย 15,832.32 ลูกบาศก์เมตรต่อปี และลดค่าใช้จ่ายในการผลิตน้ำและบำบัดน้ำเสียได้ 427,472.64 บาทต่อปี
บุคคลอ้างอิง เฉพาะสมาชิกเท่านั้น